ครีมกันแดดจำเป็นต้องมีส่วนผสมของ
Propylene glycol หรือไม่?
ครีมกันแดดแต่ละชนิดจะมีส่วนประกอบหลักและส่วนประกอบที่เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละยี่ห้อก็จะทำให้กลายเป็นจุดเด่นของยี่ห้อนั้นไป
สำหรับ SAVVY Snail BB UV Protection นั้นมีจุดเด่นก็คือมีส่วนผสมของเมือกหอยทาก
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของครีม
เชื่อว่าข้อดีนั้นคุณๆคงพยายามศึกษามากันค่อนข้างมากแล้ว แต่ครีม SAVVY
Snail BB UV Protection นั้นถือเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าใจและคุ้มค่ากับการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆให้กับตัวคุณเอง
สำหรับสรรพคุณต่างๆที่ให้ไว้ ไม่ว่าครีมกันแดดชนิดใดๆก็สามารถบ่งบอกสรรพคุณได้
แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเชื่อและเลือกใช้
คุณควรพิจารณาก่อนว่าส่วนประกอบที่ใช้เป็นส่วนผสมนั้นมีสรรพคุณตามที่ได้กล่าวไว้หรือไม่
ดังนั้นในการจะบ่งชี้ถึงสรรพคุณ จะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกับส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตครีมกันแดดแต่ละชนิดขึ้นมา
SAVVY Snail BB UV Protection มีส่วนผสมอื่นๆอยู่มากมาย
แต่ละส่วนประกอบก็จะมีสรรพคุณแตกต่างกันไป
แต่มีสารอยู่ชนิดหนึ่งซึ่งเราไม่ค่อยจะรู้จักมันซักเท่าใด
อีกทั้งสรรพคุณก็ยังไม่ค่อยจะทราบ สารที่ว่านี้ก็คือ Propylene glycol เราจะมาวิเคราะห์กันดูว่าสารตัวนี้มีที่มาอย่างไร
มีสรรพคุณอย่างไร มีผลต่อผิวที่ใช้หรือไม่
และจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีสารตัวนี้เป็นส่วนประกอบในครีมกันแดด
Propylene
glycol มีการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย
แม้ว่าจะมีความเป็นพิษอยู่ ในการนำ Propylene glycol มาใช้นั้นส่วนมากก็จะนำไปใช้ในการผลิตน้ำยาป้องกันการแข็งตัวของน้ำ
( Antifreeze )หรือใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำยาหล่อเย็น
และน้ำยาล้างไขมันที่ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมสี เป็นต้น
แต่ถึงจะเป็นสารที่มีอันตรายก็ยังมีการนำไปใช้ในเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่าง
มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ หรือ เซรั่ม
ซึ่งมีการพิจารณาและทดสอบแล้วว่าสามารถในไปใช้โดยมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้พอ
ในการนำ Propylene glycol ไปใช้นั้นเป้าหมายหลักคือสูตรที่ใช้สำหรับการรักษาความชื้น
สารกันบูด หรือสารกันเสีย และยังใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกมากกว่า 4000 ชนิด
Propylene
glycol ถือเป็นแอลกอฮอล์ อินทรีย์ ( Organic
alcohol ) ซึ่งได้จากการหมักของยีสต์และคาร์โบไฮเดรต
มีการนำมาใช้กันมากกว่า 50 ปีแล้ว
และก็ยังคงมีการใช้กันอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพอย่าง
อาหาร เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางเภสัชกรรม องค์การอาหารและยาโลก (FDA)
ได้จัดอันดับให้ Propylene glycol เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้กับในทางเภสัชกรรม
โดยมีผลเสียกับมนุษย์เพียงเล็กน้อย คุณสมบัติทางกายภาพของ Propylene glycol
จะมีโครงสร้างคล้ายกับเอทิลแอลกอฮอล์
(แอลกอฮอล์ที่ดื่มได้ ) จึงสามารถที่จะละลายน้ำได้ดี จริงแล้ว Propylene
glycol ถือเป็นสารดูดความชื้น
หมายความว่ามันสามารถที่จะดึงน้ำในอากาศและเก็บความชื้นไว้ที่บริเวณพื้นผิวที่ตัวสารนี้สัมผัสอยู่
สมบัติทางเคมีของ Propylene glycol คือจะมีสภาพที่ค่อนข้างเสถียร
ไม่ถูกย่อยสลายได้ง่าย จึงไม่เกิดปฏิกิริยากับอากาศ
สามารถที่จะติดไฟได้นิดหน่อยที่อุณหภูมิสูงๆ
และคุณสมบัติทางเคมีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อผสมสารนี้ลงในน้ำ
มันจะยับยั้งหรือทำลายความเป็นน้ำแข็งของน้ำ จนนำไปสู่การใช้ในการผลิตสารป้องกันการแข็งตัวของน้ำ
ในส่วนของสมบัติทางชีวภาพของ Propylene glycol ก็คือสารตัวนี้มีความเป็นพิษเล็กน้อยที่มีผลต่อผิวและดวงตา
และจะมีระดับความอันตรายที่มากขึ้นเมื่อมีการกลืนกินสารนี้ลงไป
มีความกังวลสำหรับการใช้สารนี้บางอย่างเกี่ยวกับองค์ประกอบของสารนี้ที่สามารถดูดซึมเข้าไปสู่ผิว
กล่าวคือ
บริเวณที่ถูกสารนี้สัมผัสอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติได้เหมือนกับกรณีการกลืนกินสารนี้เข้าไป
โดยเฉพาะการที่ Propylene glycol อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะเข้าไปทำลายระบบประสาทส่วนกลาง
ที่หมายรวมถึงสมอง และกระดูกสันหลัง แต่ผลที่ได้จากการวิจัยในเรื่องนี้ยืนยันผลได้ในระดับการใช้สัตว์ทดลองเท่านั้น
ซึ่งในการทดลองจะพบว่าสารตัวนี้ยังอาจก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของสัตว์อีกด้วย
หรืออาจก่อให้เกิดมะเร็ง โดยมีผลกับตัวอ่อนที่จะเกิดใหม่
แต่ถึงอย่างไรก็ตามการวิจัยนี้เป็นเพียงผลที่ใช้สารนี้กับสัตว์ทดลอง
ยังไม่มีการยืนยันผลของความเป็นพิษนี้ในมนุษย์
ในการนำ Propylene glycol มาใช้เป็นส่วนประกอบของครีมกันแดดนั้นเพราะ
สารตัวนี้มีสมบัติในการดูดความชื้นในอากาศมาเก็บไว้
ความชื้นในอากาศจะมีไอน้ำขนาดเล็กอยู่ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้
แต่ถ้าอยู่ในประเทศที่อากาศหนาวจัดเราจะพบว่ามีเกล็ดน้ำแข็งลอยออกมาจากในอากาศกลายเป็นหิมะได้
ในบางประเทศที่อากาศแห้งแล้งก็มีการประดิษฐ์เครื่องดูดอากาศแล้วควบแน่นให้เป็นหยดน้ำเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้
แต่สารตัวนี้สามารถที่จะดึงความชื้นมาเก็บไว้ได้เพราะสมบัติทางกายภาพของมันเอง
และยังคงรักษาความชุ่มชื้นนั้นอยู่ได้
จึงเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียที่ยังไม่ได้มีการยืนยันตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว
ถือว่าคุ้มค่าที่จะนำสารตัวนี้มาใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในครีมกันแดดโดยมีหน้าที่ดึงความชื้นและรักษาความชื้นนั้นไว้นอกจากนั้นเนื้อของสารยังมีความนุ่มนวลเมื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของครีมกันแดดจะทำให้เนื้อครีมน่าใช้กว่า
SAVVY Snail BB UV Protection เองก็เช่นกัน
การนำสารตัวนี้มาเป็นองค์ประกอบหนึ่งก็เพื่อให้การทาครีมกันแดดไม่จำเป็นต้องทาซ้ำบ่อยๆ
และประโยชน์ทางอ้อมอีกอย่างหนึ่งก็คือเมื่อมีความชื้นมาถูกเก็บไว้บริเวณที่ทาครีมกันแดดก็ยังสามารถที่จะใช้เป็นเกราะในการป้องกันรังสีต่างๆได้อีกทางหนึ่งด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น