วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

ครีมกันแดดจำเป็นต้องมีส่วนผสมของ Propylene glycol หรือไม่?

ครีมกันแดดจำเป็นต้องมีส่วนผสมของ 
Propylene glycol หรือไม่?
ครีมกันแดดแต่ละชนิดจะมีส่วนประกอบหลักและส่วนประกอบที่เป็นสูตรเฉพาะของแต่ละยี่ห้อก็จะทำให้กลายเป็นจุดเด่นของยี่ห้อนั้นไป สำหรับ SAVVY Snail BB UV Protection นั้นมีจุดเด่นก็คือมีส่วนผสมของเมือกหอยทาก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของครีม เชื่อว่าข้อดีนั้นคุณๆคงพยายามศึกษามากันค่อนข้างมากแล้ว แต่ครีม SAVVY Snail BB UV Protection นั้นถือเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าใจและคุ้มค่ากับการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆให้กับตัวคุณเอง สำหรับสรรพคุณต่างๆที่ให้ไว้ ไม่ว่าครีมกันแดดชนิดใดๆก็สามารถบ่งบอกสรรพคุณได้ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเชื่อและเลือกใช้ คุณควรพิจารณาก่อนว่าส่วนประกอบที่ใช้เป็นส่วนผสมนั้นมีสรรพคุณตามที่ได้กล่าวไว้หรือไม่ ดังนั้นในการจะบ่งชี้ถึงสรรพคุณ จะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกับส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตครีมกันแดดแต่ละชนิดขึ้นมา SAVVY Snail BB UV Protection มีส่วนผสมอื่นๆอยู่มากมาย แต่ละส่วนประกอบก็จะมีสรรพคุณแตกต่างกันไป แต่มีสารอยู่ชนิดหนึ่งซึ่งเราไม่ค่อยจะรู้จักมันซักเท่าใด อีกทั้งสรรพคุณก็ยังไม่ค่อยจะทราบ สารที่ว่านี้ก็คือ Propylene glycol เราจะมาวิเคราะห์กันดูว่าสารตัวนี้มีที่มาอย่างไร มีสรรพคุณอย่างไร มีผลต่อผิวที่ใช้หรือไม่ และจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีสารตัวนี้เป็นส่วนประกอบในครีมกันแดด
Propylene glycol มีการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย แม้ว่าจะมีความเป็นพิษอยู่ ในการนำ Propylene glycol มาใช้นั้นส่วนมากก็จะนำไปใช้ในการผลิตน้ำยาป้องกันการแข็งตัวของน้ำ ( Antifreeze )หรือใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำยาหล่อเย็น และน้ำยาล้างไขมันที่ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมสี เป็นต้น แต่ถึงจะเป็นสารที่มีอันตรายก็ยังมีการนำไปใช้ในเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่าง มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ หรือ เซรั่ม ซึ่งมีการพิจารณาและทดสอบแล้วว่าสามารถในไปใช้โดยมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้พอ ในการนำ Propylene glycol ไปใช้นั้นเป้าหมายหลักคือสูตรที่ใช้สำหรับการรักษาความชื้น สารกันบูด หรือสารกันเสีย และยังใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกมากกว่า 4000 ชนิด
Propylene glycol ถือเป็นแอลกอฮอล์ อินทรีย์ ( Organic alcohol ) ซึ่งได้จากการหมักของยีสต์และคาร์โบไฮเดรต มีการนำมาใช้กันมากกว่า 50 ปีแล้ว และก็ยังคงมีการใช้กันอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพอย่าง อาหาร เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางเภสัชกรรม องค์การอาหารและยาโลก (FDA) ได้จัดอันดับให้ Propylene glycol เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้กับในทางเภสัชกรรม โดยมีผลเสียกับมนุษย์เพียงเล็กน้อย คุณสมบัติทางกายภาพของ Propylene glycol จะมีโครงสร้างคล้ายกับเอทิลแอลกอฮอล์ (แอลกอฮอล์ที่ดื่มได้ ) จึงสามารถที่จะละลายน้ำได้ดี จริงแล้ว Propylene glycol ถือเป็นสารดูดความชื้น หมายความว่ามันสามารถที่จะดึงน้ำในอากาศและเก็บความชื้นไว้ที่บริเวณพื้นผิวที่ตัวสารนี้สัมผัสอยู่ สมบัติทางเคมีของ Propylene glycol คือจะมีสภาพที่ค่อนข้างเสถียร ไม่ถูกย่อยสลายได้ง่าย จึงไม่เกิดปฏิกิริยากับอากาศ สามารถที่จะติดไฟได้นิดหน่อยที่อุณหภูมิสูงๆ และคุณสมบัติทางเคมีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อผสมสารนี้ลงในน้ำ มันจะยับยั้งหรือทำลายความเป็นน้ำแข็งของน้ำ จนนำไปสู่การใช้ในการผลิตสารป้องกันการแข็งตัวของน้ำ ในส่วนของสมบัติทางชีวภาพของ Propylene glycol ก็คือสารตัวนี้มีความเป็นพิษเล็กน้อยที่มีผลต่อผิวและดวงตา และจะมีระดับความอันตรายที่มากขึ้นเมื่อมีการกลืนกินสารนี้ลงไป มีความกังวลสำหรับการใช้สารนี้บางอย่างเกี่ยวกับองค์ประกอบของสารนี้ที่สามารถดูดซึมเข้าไปสู่ผิว กล่าวคือ บริเวณที่ถูกสารนี้สัมผัสอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติได้เหมือนกับกรณีการกลืนกินสารนี้เข้าไป โดยเฉพาะการที่ Propylene glycol อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะเข้าไปทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ที่หมายรวมถึงสมอง และกระดูกสันหลัง แต่ผลที่ได้จากการวิจัยในเรื่องนี้ยืนยันผลได้ในระดับการใช้สัตว์ทดลองเท่านั้น ซึ่งในการทดลองจะพบว่าสารตัวนี้ยังอาจก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของสัตว์อีกด้วย หรืออาจก่อให้เกิดมะเร็ง โดยมีผลกับตัวอ่อนที่จะเกิดใหม่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการวิจัยนี้เป็นเพียงผลที่ใช้สารนี้กับสัตว์ทดลอง ยังไม่มีการยืนยันผลของความเป็นพิษนี้ในมนุษย์

ในการนำ Propylene glycol มาใช้เป็นส่วนประกอบของครีมกันแดดนั้นเพราะ สารตัวนี้มีสมบัติในการดูดความชื้นในอากาศมาเก็บไว้ ความชื้นในอากาศจะมีไอน้ำขนาดเล็กอยู่ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ถ้าอยู่ในประเทศที่อากาศหนาวจัดเราจะพบว่ามีเกล็ดน้ำแข็งลอยออกมาจากในอากาศกลายเป็นหิมะได้ ในบางประเทศที่อากาศแห้งแล้งก็มีการประดิษฐ์เครื่องดูดอากาศแล้วควบแน่นให้เป็นหยดน้ำเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้ แต่สารตัวนี้สามารถที่จะดึงความชื้นมาเก็บไว้ได้เพราะสมบัติทางกายภาพของมันเอง และยังคงรักษาความชุ่มชื้นนั้นอยู่ได้ จึงเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียที่ยังไม่ได้มีการยืนยันตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ถือว่าคุ้มค่าที่จะนำสารตัวนี้มาใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในครีมกันแดดโดยมีหน้าที่ดึงความชื้นและรักษาความชื้นนั้นไว้นอกจากนั้นเนื้อของสารยังมีความนุ่มนวลเมื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของครีมกันแดดจะทำให้เนื้อครีมน่าใช้กว่า SAVVY Snail BB UV Protection เองก็เช่นกัน การนำสารตัวนี้มาเป็นองค์ประกอบหนึ่งก็เพื่อให้การทาครีมกันแดดไม่จำเป็นต้องทาซ้ำบ่อยๆ และประโยชน์ทางอ้อมอีกอย่างหนึ่งก็คือเมื่อมีความชื้นมาถูกเก็บไว้บริเวณที่ทาครีมกันแดดก็ยังสามารถที่จะใช้เป็นเกราะในการป้องกันรังสีต่างๆได้อีกทางหนึ่งด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น